เรื่องของ ต๊อป CHARM นี้มีเรื่องราวและอร่อยมาก
- kitroj
- Oct 31, 2017
- 2 min read

ผมรู้จักน้องคนนี้ครั้งแรกตอนไปเรียนหลักสูตร Follow Your Heart ของครู Gil Alon ที่จัดโดยครูณาเมื่อช่วงต้นปีนี้ ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกเลยว่าน้องผู้หญิงตัวเล็กๆ นี้มันไม่เล็กตามตัว แต่พลังงานเยอะมาก ความมุ่งมั่นสูงมาก เล่นใหญ่ตลอด เหมือนเขาจ้าง 5 บาท มันเล่น 5 พันซะงั้น
ได้มีโอกาสคุยกับ “ต๊อป” ในหลายๆ เรื่อง มีเรื่องหนึ่ง “ต๊อป” บอกว่าระหว่างที่เรียน มันจะมีภาพของอาหารเมนูแปลกๆ โผล่ขึ้นมาในหัว เห็นถึงสารอาหารและประโยชน์ที่คนกินจะได้รับ ผมถามว่ามันมาได้อย่างไร แกทำอาหารเหรอ “ต๊อป” บอกว่าเปล่า “ต๊อป” เป็นผู้กำกับหนัง ... หา
ใช่แล้วครับ “ต๊อป” เป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา เปิดบริษัทร่วมกับสามี มีผลงานหนึ่งที่ผมจำได้เลย ก็ที่พี่ตูน บอดี้แสลม ไปถอดเสื้อยืนร้องเพลงแสงสุดท้ายอยู่บนหลังคาตึก แถวสยาม นั่นแหละฝีมือ “ต๊อป” ที่ทำรถติดกันทั้งเมือง (ล้อเล่น 555)
ผมก็งงสิครับ ว่ามันคืออะไร ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับอาหาร แต่ทำไมมีภาพของอาหารแปลกๆ โผล่มาที่ความคิด มารู้ในภายหลังว่ามันคือ ญาณทัศนะ หรือ Intuition รูปแบบหนึ่งนั่นเอง แต่เราจะไม่พูดถึง Intuition กันนะครับ เพราะไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องนี้
“ต๊อป” บอกผมว่า มีความฝันอยากจะทำอาหารที่มีประโยชน์กับคนกินจริงๆ เวลาอ่านเรื่องพวกนี้ จะรู้สึกอินและมีความสุขมากๆ ผมก็ได้แต่บอกไปโดยไม่ได้คิดอะไร ก็ทำสิ ทำตามที่ใจต้องการ เหมือนกับหลักสูตรที่เราเรียนกัน Follow Your Heart
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ข่าวว่า “ต๊อป” ไปลงเรียนหลักสูตรทำอาหารอย่างจริงจัง ก็ได้แต่ให้กำลังใจและก็หวังให้ความฝันเป็นจริง ยิ่งได้ข่าวว่าเรียนเสร็จ จะเลิกอาชีพกำกับภาพยนตร์โฆษณาไปเปิดร้านอาหาร ... เฮ๊ย เอาจริงหรือนี่ ทิ้งอาชีพที่ทำมา ทิ้งรายได้ไม่น้อย ทิ้งชื่อเสียงและโอกาสอีกมากมาย เพื่อเดินตามความฝัน ที่ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร
พอได้ฟังความคิด และได้มีโอกาสคุยกันหลายๆ ครั้ง เห็นได้ถึงความมุ่งมั่น และความสุขทุกครั้งที่ “ต๊อป” เล่าเรื่องอาหาร เล่าเรื่องประโยชน์ที่คนกินจะได้รับ เห็นถึงแววตาที่เอ่อล้นไปด้วยความรักในสิ่งที่ตัวเองจะทำ ทำให้ผมเชื่อเลยว่าน้องคนนี้เจอสิ่งที่ใช่แล้ว เจอสิ่งที่รักและหลงใหล เจอสิ่งที่ใจตามหา และกำลังเดินตามหัวใจจริงๆ อย่างที่ครู Gil ได้สอนมา
หลังจากนั้น ผมก็ได้เห็นและรับรู้เรื่องราวการสร้างร้านอาหารของ “ต๊อป” ผ่านทาง Facebook เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง ทุกขั้นตอนของการทำร้าน ตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบร้าน การก่อสร้าง การตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุ รวมถึงการจัดวางของสิ่งต่างๆ ล้วนมีรายละเอียดและเรื่องราวมากมาย ทั้งที่ “ต๊อป” เล่าผ่าน Facebook และตอนที่เจอกันอย่างมีความสุขมากมาย
หรือจะเรื่องราวของผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำร้าน ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิกสาว ช่างก่อสร้างสามีภรรยา ผู้รับเหมา คนที่ขายสีทาไม้ที่ถูกใจจนมาทาให้ที่ร้านเลย (เพราะ “ต๊อป” ไปเหมาสีมาเกือบหมดร้าน) และที่สำคัญ สามี “พี่โย่ง” ที่เป็นกำลังหลักของการทำร้านนี้ และเป็นคนวาดภาพขนาดใหญ่ที่อยู่กลางร้านด้วย
ภาพขนาดใหญ่ที่วาดอยู่เหนือผนังของห้องครัวนี้ ก็มีเรื่องราว ตอนที่เรียนหลักสูตร ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรด้วยกัน “ต๊อป” บอกว่าเห็นภาพการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในหัว และได้พูดคุยต่อยอดกับครู Gil ซึ่งเป็นผู้สอนหลักสูตรนี้ด้วย ทำให้ “ต๊อป” ตีความออกมาเป็นเรือ และสรรพสัตว์มากมายที่เดินทางไปกับเรือ เหตุผลที่เป็นสรรพสัตว์ ก็เพราะ “ต๊อป” มองว่าทุกอย่างก็มาจากสิ่งเดียวกัน ต่างกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก อย่างที่ปรัชญากล่าวไว้ ... เป็นไงหล่ะ น้องผมคนนี้มันมีของจริงๆ
วันนี้ (14 ตุลาคม 2560) เป็นวันแรกที่ผมได้ไปร้านนี้ หลังจากทดลองเปิดเพื่อทดสอบระบบมาเป็นวันที่สี่ พวกเรากลุ่มที่เรียนกับครู Gil ในหลักสูตร Follow Your Heart และเพื่อนๆ นัดกันตอนเย็นไปร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจกับ “ต๊อป” ถึงร้านเลย ... ร้านนี้มีชื่อว่า ชาม (CHARM) ครับ
ร้านนี้ไม่เหมือนร้านอาหารทั่วไป ไม่มีเมนูที่แน่นอน จะทำอาหารอะไรให้แต่ละวันจะแล้วแต่เชฟ นั่นก็คือ ต๊อป นั่นเอง “ต๊อป” จะประกาศรายการอาหารเป็นชุดทีละสัปดาห์ โดยในแต่ละวันก็จะมีอาหารที่ไม่เหมือนกัน แล้วอย่าพึ่งมั่นใจนะครับว่า พอถึงวันนั้นจะได้กินอาหารตามเมนูอย่างแน่นอน เพราะ “ต๊อป” บอกว่า อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพภูมิอากาศ โดยอาจจะมีการเติมเครื่องเทศบางอย่างเพิ่มเข้าไป หรือปรับเปลี่ยนบางอย่าง เพื่อให้ดีต่อคนที่จะมากิน ... เอากะน้องมันสิ
แล้วถ้าไม่จอง บอกได้เลยครับว่าโอกาสจะได้กินน้อยมาก เพราะ “ต๊อป” บอกว่าเตรียมอาหารไว้ให้ลูกค้าแค่วันละ 40 คนเท่านั้น หลายคนอาจจะสงสัยว่าราคาอาหารต้องแพงแน่ๆ เปล่าเลย จะบอกว่าอาหารชุดละไม่กี่ร้อยบาทเอง “ต๊อป” เปิดกลุ่ม Line ให้กับเพื่อนๆ สำหรับเข้ามาจองที่นั่ง และประกาศรายการอาหารในแต่ละสัปดาห์ ผมก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย มั่นใจเลยครับว่าลูกค้าเต็มทุกวันแน่ๆ เพราะมีจองกันล่วงหน้าจำนวนมากเลย
ทำไมแกเปลี่ยนรายการอาหารทุกวัน ผมถามขึ้นในระหว่างคุยกันในร้าน “ต๊อป” บอกว่าอยากให้ได้ความรู้สึกเหมือนแม่ทำอาหารให้ลูกกิน ซึ่งมักจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน แล้วแต่แม่ไปจ่ายตลาดแล้วเห็นอะไรดีๆ เห็นอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับลูกๆ ก็จะคิดเมนูตอนนั้นว่าจะเอามาทำอะไรดี วันนี้ฝนตกนะ น่าจะกินอะไรดี วันนี้อากาศร้อนนะ น่าจะทำอะไรกินแล้วมันดีต่อสุขภาพของลูกๆ “ต๊อป” ก็อยากให้เป็นแบบนั้นกับลูกค้า เลยจะปรับเปลี่ยนรายการอาหารไปตามสิ่งที่ “ต๊อป” คิดว่าจะดีกับเค้า ... น้องผมคนนี้ใจมันใหญ่จริงๆ
ความสุขอีกอย่างหนึ่งของ “ต๊อป” คือการได้เล่าเรื่องอาหารให้ผู้คนฟัง ระหว่างที่เรากำลังทานอาหารกันเพลินๆ “ต๊อป”ก็วิ่งออกมาจากครัว ซึ่งครัวนี้เป็นครัวเปิดตั้งอยู่กลางร้านเลย “ต๊อป” บอกว่าอยากให้คนมาทานเห็นคนทำอาหารด้วย เห็นทุกกระบวนการ เห็นความสุขของคนทำ เพราะ “ต๊อป” เชื่อว่าจะทำให้คนกินมีความสุขด้วย ... ลึกซึ้งจริงๆ น้อง
“ต๊อป” วิ่งออกมาจากครัว แล้วก็บอกว่า อยากมาเล่าเรื่องอาหาร ฟังกันหน่อย ในขณะที่หลายคนกำลังตักแกงจืดเข้าปาก แต่ “ต๊อป” ไม่สนเริ่มเล่าด้วยความสนุกสนาน พวกเราก็กินกันไป ฟังกันไปด้วย อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ และอิ่มทั้งสมอง การเล่าเรื่องเป็นความสุขของ “ต๊อป” และเป็นความต้องการของ “ต๊อป” ที่จะได้มีโอกาสเล่าเรื่องอาหารให้ลูกค้าฟังตามโต๊ะว่ามีที่มาอย่างไร ดีต่อสุขภาพอย่างไร ควรจะกินอะไรก่อน แล้วตามด้วยอะไร ทำไม และอีกมากมายระดับผู้รู้จริงทีเดียว หรือที่เรียกว่า Chef Table “ต๊อป” ก็เลยทำร้านแบบมีโต๊ะไม่เยอะ เพื่อจะได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
.
ในวันที่พวกเราไปทานที่ร้าน มีลูกค้า Walk In เข้ามา ซึ่งจริงๆ แล้ววันนี้ “ต๊อป” ประกาศปิดร้านไม่รับลูกค้า เพราะจะจัดเป็น Private Group สำหรับพวกเรา ออกแบบอาหารมาเฉพาะสำหรับพวกเราด้วย แต่ลูกค้ารายนี้เดินเข้ามา บอกมีอาหารเหลือไหม ขอทานเถอะ เคยแวะมา 3 รอบแล้ว ไม่ได้ทาน ไม่อาหารหมด ก็โต๊ะเต็ม วันนี้ก็ขับวนหาทางเข้าที่จอดรถตั้ง 3 รอบ กว่าจะหาเจอ ไอ้เรื่องของทางเข้าร้านนี่ก็มีเรื่องราวนะ
“ต๊อป” คงเห็นถึงความพยายาม เลยยินดีรับลูกค้ารายนี้ไว้ แล้วรีบไปจัดโต๊ะให้ ซึ่งก็เต็มไปด้วยของทำงานบนโต๊ะ เพราะปกติจะใช้เป็นโต๊ะทำงานของสถาปนิกด้วย ระหว่างที่ลูกค้าทานอาหาร และ “ต๊อป” ว่างจากการทำอาหาร ก็เดินไปเล่าเรื่องอาหารให้กับลูกค้าฟัง “ต๊อป” มาเล่าให้ฟังว่าลูกค้าสนใจเรื่องการสอนทำอาหารที่ “ต๊อป” มีเปิดด้วย มีคำถามหนึ่งที่ลูกค้าถามว่า ทำไมที่ร้านนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ขายเลย “ต๊อป” ตอบลูกค้าไปว่า ให้ไปทานร้านตรงข้ามเลยค่ะ มีขาย เท่านั้นแหละครับ ลูกค้า Tip ให้ “ต๊อป” หนึ่งพันบาท ทั้งที่ราคาอาหารสำหรับสามคน น่าจะแค่พันกว่าบาท ... เอากับต๊อปสิ
ร้านนี้เปิดปิดสั้นมาก วันธรรมดาปิดแค่ทุ่มหนึ่ง รับลูกค้าถึงแค่หกโมงครึ่ง ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ปิดสามทุ่ม ขายเฉพาะตอนเย็น เพราะ “ต๊อป” บอกทำไม่ไหว ส่วนกลางวัน “ต๊อป” จะเปิดสอนการทำอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่สารพัดอย่าง ส่วนวันไหนจะสอนอะไรบ้าง เหมือนเดิมครับ แล้วแต่ “ต๊อป” แต่เชื่อไหมครับ มีคนจองเรียนกันล่วงหน้าแล้วในกลุ่ม Line หลายรายแล้ว รวมถึงลูกค้าที่มาทานวันนี้ก็สนใจเรียนเช่นกัน
ผมถาม “ต๊อป” ว่า ทำไมไม่ทำที่จอดรถให้มันเห็นชัดเจนกว่านี้ ป้ายก็ไม่มี พี่ขับเลยทางเข้าด้วยนะ แล้วทางเข้าที่จอดรถก็ดันอยู่ด้านหลังร้าน ส่วนด้านหน้าร้าน ก็ปลูกต้นไม้เป็นแนวยาวจนไม่มีทางเข้า “ต๊อป” บอกว่าอยากให้คนที่มาร้าน ตั้งใจจะมาร้านนี้จริงๆ ได้รู้จักร้านนี้ก่อนที่จะมา ไม่อยากให้คนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักร้าน แล้วเข้ามา อาจจะหงุดหงิดกลับไป เพราะร้านนี้ไม่เหมือนร้านอื่นๆ ... เออ จริงของมัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวของ “ต๊อป” จริงๆ แล้วชีวิตของ “ต๊อป” มีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย เอาแค่ทำร้านนี้ ผมว่าเขียนออกมาเป็นหนังสือดีๆ ได้เป็นเล่มเลย ดีใจที่มีโอกาสรู้จัก “ต๊อป” น้องที่เป็นต้นแบบของการทำตามความฝันอย่างมุ่งมั่น น้องที่แสดงให้เห็นโดยไม่ต้องบอกกล่าวว่าความสุขในชีวิตมันเป็นอย่างไร การได้ Follow Your Heart จริงๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
บอกแล้ว CHARM นี้มีเรื่องราว และอร่อยมาก
โจ้
15 ตุลาคม 2560
Comentarios