top of page

Event Sustainability Management (1) - เมื่อโอลิมปิกพูดถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กิตติพัทธ์ จิรวัสวงศ์

หากพูดถึงการจัดงานขนาดใหญ่ที่ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการจัดงานอย่างยั่งยืน (Event Sustainability) ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง นั่นคือการจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ในการจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงาน นอกจากจะมีการวางแผนเพื่อให้การจัดงานประสบความสำเร็จ สร้างความสุขและความทรงจำของทุกๆ คนแล้ว ในการจัดงานครั้งนี้ยังมีการวางแผนการจัดงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยยึดกรอบแนวทางตามมาตาฐาน BS 8901 ซึ่งเป็นมาตรฐานของประเทศอังกฤษ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Event Management) ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนามาเป็นมาตรฐาน ISO 20121 ในปี 2012 นี้เอง

การจัดงานโอลิมปิกครั้งนี้ มีการกำหนดเป้าหมายของการจัดการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมไว้หลายๆ ประเด็น ประกอบด้วย

1. การบริหารก๊าซคาร์บอน หรือ Carbon management โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น Low-carbon games เพื่อลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก โดยมีการวัด Carbon Footprint ที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน เพื่อวางแผนให้เกิดน้อยที่สุด รวมถึงมีการกำหนดมาตรการในการชดเชยที่เกิดขึ้นด้วย

2. การลดความสูญเสียให้เป็นศูนย์ (Zero-waste Games) โดยเน้นให้วัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการจัดงาน จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ (Reuse) ไมว่าจะเป็นแก้วน้ำ หรือภาชนะที่ใส่อาหารที่มีจำนวนมาก โดยความร่วมมือจากร้านค้าต่างๆ ที่มาให้บริการในงาน หรือการนำขยะต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ให้เป็นขยะที่จะนำไปฝังกลบ (Landfill) เช่น การนำมาใช้ซ้ำ การนำมาใช้ในการผลิตพลังงาน การจัดการสารอันตราย

3. การบริหารการขนส่ง (Transport Solutions) มีการจัดทำแผนบริหารการเดินทาง (Travel Management) การส่งเสริมให้ใช้การขนส่งสาธารณะที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างดี ปลอดภัย และสะดวกสำหรับคนทุกกลุ่ม การดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางด้วยจักรยาน การใช้รถในการอำนวยความสะดวกในงานที่ผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย

4. การสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (Economic Benefit) ตั้งแต่การใช้เกณฑ์ด้านความยั่งยืนมาใช้ในการคัดเลือกผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน (Sponsor) การจัดซื้อจัดหาที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การลดต้นทุนในการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้ไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงน้ำสะอาด การสร้างงานให้กับประชาชนท้องถิ่น การนำวัสดุและเครื่องมือต่างๆ มาใช้ซ้ำหลังเสร็จสิ้นการจัดงานแล้ว

5. การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainable Living) รวมถึงการสื่อสารให้ผู้คนที่มาร่วมงานได้ตระหนักถึงแนวคิดของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงาน รวมถึงการรณรงค์ให้ผู้มาชมการแข่งขันได้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การเดินทางโดยรถสาธารณะ การทานอาหารที่ใช้ภาชนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแยกขยะตามประเภทต่างๆ

6. การจัดการหลังเสร็จงาน (Legacy) มีการวางแผนการใช้สนามกีฬา และสิ่งก่อสร้างต่างๆ หลังจากการจัดงานให้เกิดประโยชน์ต่อเนื่อง โดยสนามกีฬา Olympic Park ได้เปลี่ยนมาเป็น Queen Elizabeth Olympic Park เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียว และสถานที่พักผ่อนของชาวลอนดอน บริหารจัดการโดย London Legacy Development Corporation โดยจะมีการปรับปรุงสถานที่บางส่วน ภายใต้การจัดการอย่างยั่งยืนด้วย เช่น การใช้วัสดุที่สามารถใช้ซ้ำที่มาจากการรื้อสนามชั่วคราวได้ นอกจากนั้น ยังมีการกำหนดแนวทางของการจัดงานยั่งยืนสำหรับการจัดงานใน Queen Elizabeth Olympic Park ที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วย

นอกจากนั้น ในการจัดงานครั้งนี้ เมื่อเสร็จงานแล้วยังมีการจัดทำรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) ตามแนวทางของ GRI (Global Reporting Initiatives) อีกด้วย เพื่อนำเสนอถึงแนวทาง และมาตรการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการในการจัดงานโอลิมปิกนี้ รวมถึงการวัดผลการดำเนินงานในด้านต่างๆ ทั้งด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม เหมือนกับองค์กรชั้นนำต่างๆ ในปัจจุบันที่จะมีการจัดทำรายงานความยั่งยืน หรือรายงานความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกปี

ในตอนต่อไปจะพูดถึงว่าแล้วทำไมการจัดงาน Event ถุึงต้องสนใจเรื่องของความยั่งยืน

RECENT POST
bottom of page